วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

คำศัพท์เรียกดอกมะลิ มะลิบ้าน,มะลิแช่,อ่างมะลิ,มะลิดิบ,มะลิหอม

คีย์เวิด KEY WORD : คำศัพท์เรียกดอกมะลิ มะลิบ้าน,มะลิแช่,อ่างมะลิ,มะลิดิบ,มะลิหอม

 ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่  /มาแล้วครับ
เพลงปั่นจักรยาน Bike for Dad มิวสิควีดีโอ มีหลายภาษาด้วย https://youtu.be/hLBX3b9oEf4
ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่เป็นที่ต้องการของตลาด195ประเทศเป็นอย่างมาก
        ดอกมะลิ ที่นิยมนำมาปลูกกันนั้นจะมีอยู่ 3 พันธุ์นั่นก็คือ พันธุ์แม่กลอง พันธุ์ราษฎร์บูรณะ พันธุ์ชุมพร ซึ่งแต่ละพันธุ์ก็จะมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป แต่ทุกพันธุ์ล้วนแล้วแต่เป็นที่ต้องการของตลาดและมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้การปลูกมะลิเพื่อขายดอกจึงเป็นอาชีพที่สามารถยึดเป็นอาชีพหลักได้ และสามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกรได้อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ( ร ะ วั ง ห น อ น ทำ เ จ๊ ง เ ด๋ อ อ้ า ย )
ที่ปากคลองตลาดมีความต้องการดอกมะลิเป็น จำ น ว น ม า ก วั น ล ะ 100ตั น /วั น
วิธีการปลูกมะลิ
       
ในก า ร ป ลู  กม ะ ลิ ดิ น ที่ เ ห ม า ะ ส ม คื อ จั ง ห วั ด สิ ง ห์ บุ รี ทั้ ง ห  มด ในการปลูกจะต้องเป็นดินร่วนปนทราย และจะต้องทำการไถดะ ไถยกร่อง แล้วโรยปูนขาวพร้อมทั้งผสมปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอก ต่อจากนั้นตากดินไว้ 45 วัน โดยแปลงปลูกควรกว้างประมาณ 3 เมตร และยกร่องให้สูงเพื่อไม่ให้น้ำท่วมถึง ตามด้วยการขุดหลุมโดยไม่ต้องขุดลึกมาก รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกแล้วคลุกเคล้าเข้ากับดิน ต่อด้วยนำกล้าพันธุ์ลงปลูกแล้วกลบดิน หลังจากนั้นนำฟางมาคลุมโคนต้นให้ทั่วแปลง แล้วรดน้ำพอชุ่ม ไม่ควรปล่อยให้โคนต้นแห้ง (อบรมความรู้ระดับสูงคลิกที่นี่)
ในสมัยก่อนคนไทยนิยมนำดอกมะลิมาลอยในน้ำที่จะใช้ดื่มเพื่อเพิ่มความหอมชิ่นใจ
      สำหรับการดูแลรักษาประมาณ 15 วัน หลังการปลูกต้นมะลิจะแตกยอดใหม่ ดังนั้นในช่วงนี้ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 กำมือ(ตายแน่นอน) ในบริเวณรอบโคนต้นแล้วรดน้ำ และต้องคอยหมั่นดูแลเรื่องวัชพืชให้ดี หลังจากนั้นอีก 20 วันโดยประมาณให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อีกทีในปริมาณเท่าเดิม(ตายๆ) แล้วรดน้ำรอบทรงพุ่ม    
ดอกมะลินั้นเป็นสินค้าที่ขายได้ราคาโดยเฉพาะในช่วงวันสำคัญทางศาสนา วันแม่ และในช่วงหน้าหนาวที่มะลิจะไม่ค่อยออกดอกจึงทำให้มันยิ่งมีราคาแพง โดยมีราคาขายสูงถึง 5,000 บาท/กิโลกรัมกันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การทำอาชีพเกษตรกรรมอย่างการปลูกมะลิเป็นอาชีพที่สร้างเศรษฐีเข้ามาประดับวงการการทำอาชีพเกษตรได้ไม่ยากนั่นเอง(ขายทั่วโลก195ประเทศ)
(ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)มะลิชนิดนี้ มีต้นวางขาย ผู้ขายบอกว่า มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเวียดนาม ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยนานกว่า 2 ปีแล้ว สามารถเจริญเติบโตได้ดีและมีดอกดกแบบไม่ขาดต้นตลอดทั้งปี ที่สำคัญ ผู้ขายยืนยันว่า ดอก มีกลิ่นหอมแรงมากอีกด้วย ผู้นำเข้า จึงตั้งชื่อ เป็นภาษาไทยว่า มะลิเวียดนามพร้อมขยายพันธุ์ตอนกิ่งออกวางขายดังกล่าว
มะลิเวียดนาม เป็นไม้อยู่ในวงศ์เดียวกับมะลิทั่วไปคือ OLEACEAE ซึ่งผู้ขายบอกลักษณะทางพฤกษศาสตร์ว่า เป็นไม้พุ่มเตี้ย ต้นสูงเต็มที่ไม่เกิน 0.5-1 เมตร เท่านั้น เป็นสายพันธุ์ที่แตกกิ่งก้านสาขาหนาแน่นมากกว่ามะลิพันธุ์อื่นๆอย่างชัดเจน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม รูปรีกว้าง ปลายและโคนใบแหลมหรือเกือบมน เนื้อใบค่อนข้างหนา สีเขียวสดเป็นมัน เวลาใบดกจะน่าชมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผู้ขายบอกว่า ถ้าผู้ปลูกขยันตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอจะยิ่งทำให้แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มหนาแน่นสวยงามยิ่งขึ้น
ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อ 3-5 ดอกต่อช่อ โดยดอกจะออกที่ปลายยอด ลักษณะดอกที่ผู้ขายบอกคือโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นกลีบดอกรูปเกือบมน 7-8 กลีบ กลีบดอกเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆหลายชั้น ดอกเป็นสีขาวสดใส มีกลิ่นหอมแรง เวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันทั้งต้น จะดูสวยงามพร้อมส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายทั่วบริเวณใกล้เคียงเป็นที่ประทับใจยิ่งนัก ที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ผู้ขายยืนยันได้แก่ กลีบดอกแต่ละชั้นเมื่อเด็ดจากต้นแล้วสามารถถอดกลีบดอกเป็นชั้นๆ ได้ เหมือนกับมะลิถอดของไทยทุกอย่าง ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง ปักชำกิ่ง และทาบกิ่ง