"ทำไมขายสินค้าไม่ออก??"
คำถามนี้อาจจะมีใครหลายๆคนที่ทำธุรกิจตั้งคำถาม โดยเฉพาะเวลาลงทุน ลงเงินโฆษณาไปกับสื่อต่างๆ แต่สินค้ากลับขายไม่ออก
ถ้าคุณมีคำถามนี้อยู่ในใจ และพยายามหาคำตอบที่ซับซ้อน โดยการไปหาหนังสืออ่าน หาบทความดีๆ ฟังสัมมนา หรือทางไหนก็แล้วแต่ นั่นย่อมเป็นเรื่องที่ดี เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจคุณเอง
แต่วันนี้ผมอยากให้เราลองกลับมาคิดอะไรแบบง่ายๆดูบ้าง ลองคิดจากตัวเองก็ได้ ว่าในเดือนที่ผ่านมาคุณได้ซื้อสินค้าอะไรไปบ้าง??
เช่น เดือนที่ผ่านมาผมทำออฟฟิศใหม่ ก็ต้องซื้อของต่างๆมากมาย ที่ใช้สำหรับสำนักงาน โต๊ะทำงาน, โต๊ะประชุม, โซฟา, ผ้าม่าน, หิ้งพระ, กระดาน Whiteboard, บริการอินเตอร์เน็ต, Router ฯล
ทำไมตัวเราเองถึงซื้อของคนอื่นได้? ใช้จ่ายอะไรไปมากมาย?
สำหรับผมเหตุผลหลักๆ มี 2 ข้อเท่านั้น
1. เราอยากใช้
2. เราต้องใช้
แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้ผมเลือกซื้อสินค้าของเจ้าใดเจ้านึง?
1. ซื้อเพราะ ผมอยากได้ด่วนมากๆ เดินผ่านเห็นว่าขายก็ซื้อเลย
2. ซื้อเพราะเชื่อใจตัวร้านค้า (อาจจะจากเจ้าของร้านที่ได้คุย, จากภาพลักษณ์บนเว็บ, เพราะเค้าให้ความรู้ที่ดี)
3. ซื้อเพราะราคาถูกกว่าเจ้าอื่นๆนิดหน่อย โดยที่เรายอมรับในคุณภาพของราคาที่ลดลง)
4. ซื้อเพราะสินค้าหน้าตาแบบนี้ เคยเห็นที่ร้านนี้ร้านเดียว หรือร้านคู่แข่งหมด
หรือ
5. บางทีก็ซื้อเพราะแค่เห็นร้านนี้ขาย ก็เลยซื้อ แค่นั้น...
ถ้าดูจากเหตุผลของผมทั้ง 5 ข้อ ผมก็สรุปได้เลยว่า สาเหตุที่ร้านๆนึงขายสินค้าไม่ออกก็คือ
เค้าทำสิ่งตรงข้ามกับ 5 ข้อข้างบน
1. คนอยากได้ของด่วนๆ ก็ไม่มีของให้ หรือถามอะไรไปก็ตอบเชื่องช้า ไม่ทันใจ
2. ร้านค้าทำตัวให้ลูกค้าไม่เชื่อใจ จากหน้าเว็บ จากการพูดคุยของเซลล์ ไม่เคยให้ความรู้อะไรลูกค้าเลย หรืออื่นๆ
3. ขายแพงกว่าเจ้าอื่น แต่ทำให้ลูกค้ารู้ไม่ได้ว่าคุณภาพดีกว่ายังไง หรือขายเท่าเจ้าอื่นๆ แต่ present สินค้าให้ลูกค้าเห็นข้อดีเท่าอีกเจ้าไม่ได้
4. สินค้าหน้าตาเหมือนร้านอื่นๆ ไปหมด ไม่มี value อะไรเพิ่มเติมทั้งสิ้น (หรือมีแต่ไม่บอกลูกค้าอีก)
5. เอาร้านตัวเองไปเล่นซ่อนหากับลูกค้า ลูกค้าไม่เคยเห็นร้าน ไม่เคยเห็นของ แล้วจะขายยังไง
สุดท้ายนี้อยากจะฝากคนที่มีสินค้าแต่ยังขายไม่ดี
อยากให้หยุดอ่านหนังสือ หยุดสัมมนาซัก 1 วัน
ลองกลับมานั่งเงียบๆคุยกับตัวเอง คุยกับสินค้าตัวเอง คุยกับเว็บตัวเอง คุยกับพนักงานขายตัวเอง คุยกับลูกค้าตัวเอง คุณน่าจะได้แนวทางการเพิ่มยอดขายอีกเพียบคร๊าบ
